การค้นหาขั้นสูง
ผู้เยี่ยมชม
9149
อัปเดตเกี่ยวกับ: 2554/08/17
 
รหัสในเว็บไซต์ fa1138 รหัสสำเนา 15980
คำถามอย่างย่อ
ในเมื่อนบีมูซาสังหารชายกิบฏี แล้วจะเชื่อว่าท่านไร้บาปได้อย่างไร?
คำถาม
กุรอานระบุว่านบีมูซาฆ่าชายกิบฏี ตกลงว่าท่านไร้บาปจริงๆหรือ?
คำตอบโดยสังเขป

นบีทุกท่านล้วนเป็นผู้ปราศจากบาปและมีสถานะอันสูงส่ง  อัลลอฮ์ (ตามระดับขั้นของแต่ละท่าน) และมีภาระหน้าที่ๆหนักกว่าคนทั่วไป โดยมาตรฐานของบรรดานบีแล้ว การให้ความสำคัญต่อสิ่งอื่นนอกเหนืออัลลอฮ์ถือเป็นบาปอันใหญ่หลวง
อย่างไรก็ดี นักวิชาการมีคำอธิบายเกี่ยวกับเหตุการณ์สังหารชายชาวกิบฏีหลายทัศนะ
คำอธิบายที่น่าสนใจที่สุดคือ ท่านมิได้ทำบาปใดๆ เนื่องจากการสังหารชาวกิบฏีในครั้งนั้นไม่เป็นฮะรอมเพราะควรแก่เหตุ เพียงแต่ท่านไม่ควรรีบลงมือเช่นนั้น
สำนวนในโองการกุรอานก็มิได้ระบุว่าเหตุดังกล่าวคือบาปของท่าน ดังที่มะอ์มูนถามอิมามริฎอ(.)เกี่ยวกับคำพูดของนบีมูซาที่ว่านี่คือการกระทำของชัยฏอน มันคือศัตรูผู้ล่อลวงอย่างชัดแจ้งหรือที่กล่าวว่าโอ้พระผู้อภิบาล ข้าฯอธรรมต่อตนเอง ขอทรงประทานอภัยเทอญอิมามริฎอตอบว่า การกระทำของชัยฏอนหมายถึงการทะเลาะเบาะแว้งกันของชายสองคน ส่วนที่ว่าท่านอธรรมต่อตนเองหมายถึงว่าท่านไม่ควรเข้ามาในเมือง ส่วนที่กล่าวว่าฟัฆฟิรลีหมายถึงขอให้พระองค์ทรงอำพรางท่านให้พ้นสายตาของฝ่ายฟาโรห์

คำตอบเชิงรายละเอียด

เพื่อให้ได้คำตอบที่กระจ่าง ควรพิจารณาถึงข้อเท็จจริงต่อไปนี้
. อะไรคือภาวะไร้บาป(อิศมะฮ์)?
อิศมะฮ์ในความหมายทั่วไป หมายถึงการได้รับความคุ้มครองอย่างปลอดภัย และการยึดเหนี่ยวสิ่งใดสิ่งหนึ่ง[i] ส่วนความหมายเชิงเทววิทยาหมายถึงความโปรดปรานพิเศษจากอัลลอฮ์ที่หากผู้ใดมี ก็จะทำลายแรงจูงใจที่จะฝ่าฝืนคำสั่งของพระองค์ แม้ว่าจะมีความสามารถที่จะทำบาปก็ตาม[ii]

. เหตุผลที่บรรดานบีจำเป็นต้องมีภาวะไร้บาป
1. หากบรรดานบีไม่มีภาวะไร้บาป ย่อมขัดต่อเป้าประสงค์ของพระองค์ เนื่องจากอัลลอฮ์แต่งตั้งนบีก็เพื่อที่จะแจ้งให้มนุษยชาติรับรู้ถึงผลประโยชน์และภัยคุกคามที่แท้จริง และเพื่อตระเตรียมปัจจัยที่จำเป็นต่อการขัดเกลาจิตใจเพื่อให้บรรลุความผาสุกในโลกนี้และโลกหน้า และเป้าประสงค์ดังกล่าวจะเป็นจริงได้ต่อเมื่อบรรดานบีมีภาวะไร้บาปเท่านั้น เนื่องจากหากนบียังทำบาป ถามว่าเรายังจะต้องปฏิบัติตามท่านหรือไม่ หากไม่ต้องปฏิบัติตาม แล้วจะมีนบีไปเพื่ออะไร แต่หากต้องทำบาปตาม ก็ย่อมเป็นเรื่องต้องห้ามที่จะทำบาป
2. หากนบีทำบาป ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังดำรงตำแหน่งนบีก็ตาม ย่อมทำให้ผู้คนหมดศรัทธาและเมินต่อคำสอนของพวกท่าน
ด้วยเหตุผลเชิงสติปัญญาข้างต้นและเหตุผลอื่นๆอีกมากมาย ทำให้ทราบว่าบรรดานบีจำเป็นต้องมีภาวะไร้บาป

. โองการที่ระบุว่าท่านนบีมูซาสังหารชายชาวกิบฏีไม่ขัดแย้งกับภาวะไร้บาปของท่านหรืออย่างไร?
กุรอานกล่าวว่าเขา(นบีมูซา)ได้เข้ามาในเมืองขณะที่ชาวเมืองไม่ทราบข่าว ทันใดนั้นเขาก็ได้เห็นชายสองคนกำลังทะเลาะกันอยู่ โดยที่หนึ่งในนั้นเป็นสาวกของเขา(บนีอิสรออีล) ส่วนอีกคนเป็นศัตรู ชายที่เป็นสาวกได้ขอความช่วยเหลือ มูซาได้ต่อยที่อกศัตรูทำให้ศัตรูสิ้นใจ มูซากล่าวว่า นี่คือการกระทำของชัยฏอน มันคือศัตรูผู้ล่อลวงอย่างชัดแจ้ง และกล่าวว่า โอ้พระผู้อภิบาล ข้าฯอธรรมต่อตนเอง ขอทรงประทานอภัยเทอญ อัลลอฮ์ได้อภัยแก่เขา และพระองค์คือผู้ทรงอภัยและเปี่ยมด้วยเมตตาธรรม[iii]
คำถามก็คือ ประโยคที่นบีมูซากล่าวว่านี่คือการกระทำของชัยฏอน มันคือศัตรูผู้ล่อลวงอย่างชัดแจ้งและที่ท่านกล่าวว่าโอ้พระผู้อภิบาล ข้าฯอธรรมต่อตนเอง ขอทรงประทานอภัยเทอญจะสอดคล้องกับภาวะไร้บาปของท่านได้อย่างไร?
ในประเด็นนี้ต้องทราบว่า ชายกิบฏีคนนั้นเป็นข้าราชบริพารของฟาโรห์ ซึ่งได้บังคับให้สาวกของนบีมูซาเก็บฟืน จึงเกิดเหตุชกต่อยกันขึ้น ขณะนั้นเอง นบีมูซาได้เข้าช่วยเหลือสาวกและต่อยที่อกของกิบฏีคนนั้นจนเป็นเหตุให้เขาตาย[iv] นักอรรถาธิบายกุรอานชี้แจงว่า การกระทำของนบีมูซาเข้าข่ายตัรกุลเอาลาหมายถึงการกระทำที่มิได้เป็นฮะรอม แต่จะเป็นสาเหตุให้สูญเสียโอกาสที่ดีกว่า[v] เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ท่านต้องประสบความยากลำบากมากขึ้น ทั้งนี้ก็เพราะทำให้ฟาโรห์สั่งไล่ล่าท่าน

หนังสือ อุยูน อัคบาริร ริฎอ บันทึกไว้ว่ามะอ์มูนได้เอ่ยถามท่านอิมามริฎอ(.)เกี่ยวกับเรื่องนี้ ท่านตอบว่าประโยคที่ว่านี่คือการกระทำของชัยฏอนหมายถึงการทะเลาะกันของชายสองคนนั้น และที่กล่าวว่าโอ้พระผู้อภิบาล ข้าฯอธรรมต่อตนเองหมายถึงว่า ข้าฯไม่ควรทำให้เรื่องบานปลาย ข้าฯไม่น่าเข้ามาในเมืองตอนนี้ส่วนที่กล่าวว่าขอทรงประทานอภัยเทอญหมายถึงขอให้พระองค์ทรงอำพรางตัวข้าฯให้พ้นจากเงื้อมมือศัตรู ทั้งนี้ก็เพราะว่าความหมายหนึ่งของฆุฟรอนคือการอำพรางหรือหลบซ่อน[vi]
ซัยยิดมุรตะฎอ อะละมุ้ลฮุดา ได้ให้ข้อคิดเห็นสองประการในหนังสือ ตันซีฮุ้ลอัมบิยาอ์ เกี่ยวกับโองการนี้ว่า
1. อธรรมในที่นี้หมายถึงการละเว้นสิ่งอันเป็นมุสตะฮับ(สิ่งที่ดีกว่า) หมายถึงควรประวิงเวลาเข้าช่วยเหลือสาวกและสำเร็จโทษชายกิบฏี การกระทำของท่านถือเป็นตัรกุลเอาลา ซึ่งจะทำให้สูญเสียผลบุญส่วนหนึ่ง จึงเป็นเหตุให้ท่านกล่าวว่าข้าฯอธรรมต่อตนเอง
2. ประโยคนี่คือการกระทำของชัยฏอนหมายถึงการกดขี่ของชายชาวกิบฏี โดยนบีมูซามิได้เจตนาจะสังหารเขา เพียงแต่ต้องการจะปกป้องชีอะฮ์(สาวก)ของท่านเท่านั้น[vii]
เชคฏูซีกล่าวไว้ในตัฟซี้รอัตติ้บยานว่าการสังหารชายชาวกิบฏีคนนั้นมิไช่เรื่องที่น่ารังเกียจ เพราะอัลลอฮ์ทรงบัญชาให้ท่านลงไม้ลงมือกับเขา แต่สมควรจะกระทำภายหลัง เนื่องจากสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย แต่เมื่อท่านลงมือทันทีจึงเป็นการตัรกุลเอาลา ท่านจึงขออภัยโทษจากพระองค์[viii]
ส่วนผู้ประพันธ์ตัฟซี้รมัจมะอุ้ลบะยานชี้แจงไว้ดังนี้การสังหารเป็นไปเพื่อช่วยเหลือผู้ศรัทธาให้พ้นจากผู้กดขี่ โดยที่ไม่ได้เจตนาจะให้ถึงตาย ฉะนั้น จึงเป็นสิ่งที่เหมาะควรและไม่น่ารังเกียจ[ix]
ในตัฟซี้รฟัตฮุ้ลก่อดี้ร กล่าวว่าท่านขออภัยโทษจากอัลลอฮ์เนื่องจากตัรกุลเอาลา และนัยยะของข้าฯอธรรมต่อตนเองหมายถึง ข้าฯอธรรมต่อตัวเองเนื่องจากฟาโรห์จะสั่งให้ทหารไล่สังหารข้าฯจากคดีนี้อย่างแน่นอน ส่วนฟัฆฟิรลีหมายถึงขอให้พระองค์ทรงอำพรางตัวข้าอย่าให้ฟาโรห์จับได้
และหากโองการที่14 ซูเราะฮ์อัชชุอะรอ เล่าคำพูดของนบีมูซาที่ว่า  لهم علی ذنب (ฉันมีตราบาปสำหรับพวกเขา) นั่นหมายถึงบาปในมุมมองของฟาโรห์และพวก มิได้หมายความว่านบีมูซาทำบาป[x]

สุดท้ายนี้ขอสรุปว่า ตราบาปมีหลายระดับขั้น บาปที่เกิดจากการฝ่าฝืนคำสั่งของอัลลอฮ์ ย่อมขัดต่อหลักอิศมะฮ์ (ภาวะไร้บาป) แต่บางครั้ง การตัรกุลเอาลาก็ถือเป็นตราบาปในมาตรฐานระดับผู้ใกล้ชิดพระองค์อย่างบรรดานบี (แต่ไม่ไช่บาปสำหรับคนธรรมดา) ซึ่งกรณีนี้ไม่ขัดต่อหลักอิศมะฮ์แต่อย่างใด เนื่องจากเป็นไปตามสุภาษิตที่ว่าความดีของคนดีเป็นได้แค่ตราบาปของผู้ใกล้ชิดพระองค์

เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาอ่าน:
ดัชนี ภาวะไร้บาปของบรรดานบีในกุรอาน,ลำดับที่ 129
ดัชนี ภาวะไร้บาปของบรรดานบีในปริทรรศน์กุรอาน,ลำดับที 112



[i] มุฟร่อด้าตรอฆิบและอัลอัยน์ ศัพท์: عصم

[ii] บทเรียนเทววิทยา,.ญะฟัร ซุบฮานี,หน้า 405

[iii] وَ دَخَلَ الْمَدینَةَ عَلى‏ حینِ غَفْلَةٍ مِنْ أَهْلِها فَوَجَدَ فیها رَجُلَیْنِ یَقْتَتِلانِ هذا مِنْ شیعَتِهِ وَ هذا مِنْ عَدُوِّهِ فَاسْتَغاثَهُ الَّذی مِنْ شیعَتِهِ عَلَى الَّذی مِنْ عَدُوِّهِ فَوَکَزَهُ مُوسى‏ فَقَضى‏ عَلَیْهِ قالَ هذا مِنْ عَمَلِ الشَّیْطانِ إِنَّهُ عَدُوٌّ مُضِلٌّ مُبینٌ (15) قالَ رَبِّ إِنِّی ظَلَمْتُ نَفْسی‏ فَاغْفِرْ لی‏ فَغَفَرَ لَهُ إِنَّهُ هُوَ الْغَفُورُ الرَّحیمُ  ซูเราะฮ์ อัลก่อศ็อศ,15,16

[iv] ตัฟซี้รเนมูเนะฮ์,.มะการิม ชีรอซี,เล่ม 16,หน้า 42. ตัฟซี้รอัลบะยาน,.มะการิม ชีรอซี,เล่ม 7-8, ตัฟซี้ร อัตติ้บยาน,เชคฏูซี,เล่ม 2,หน้า 391ตัฟซี้รอิษนาอะชะรี,เล่ม 10,หน้า 94

[v] ตัฟซี้รนูรุษษะเกาะลัยน์,เล่ม 4,หน้า 119 ตัฟซี้รอิษนาอะชะรี,เล่ม 10,หน้า 94

[vi] อุยูน อัคบาริร ริฎอ(.),หน้า 155 ,หมวดที่ 15, นูรุษษะเกาะลัยน์,เล่ม 4,หน้า 119, อัลมีซาน,เล่ม 16,หน้า 18

[vii] อ้างจากมัจมะอุ้ลบะยาน

[viii] ตัฟซี้ร อัตติ้บยาน,เล่ม 2,หน้า 291

[ix] ตัฟซี้รมัจมะอุ้ลบะยาน,ฏอบัรซี,เล่ม 7,หน้า 382

[x] ตัฟซี้รฟัตฮุ้ลก่อดี้ร,เชากานี,เล่ม 4,หน้า 164

แปลคำถามภาษาต่างๆ
ความเห็น
จำนวนความเห็น 0
กรุณาป้อนค่า
ตัวอย่าง : Yourname@YourDomane.ext
กรุณาป้อนค่า
<< ลากฉัน
กรุณากรอกจำนวนที่ถูกต้องของ รหัสรักษาความปลอดภัย

หมวดหมู่

คำถามสุ่ม

  • ความหมายของอักษรย่อในอัลกุรอานคือ อะไร?
    13556 วิทยาการกุรอาน 2555/08/22
    อักษรย่อ หมายถึงอักษาซึ่งได้เริ่มต้นบทอัลกุรอาน บางบท ไม่มีความหมายเป็นเอกเทศ ตัฟซีรกุรอาน มีการตีความอักษรเหล่านี้ด้วยทัศนะที่แตกต่างกัน ซึ่งทัศนะที่ถูกต้องที่สุดคือ อักษรย่อเป็นรหัส ซึ่งเท่าเราะซูลและหมู่มิตรของอัลลอฮฺ เข้าใจในสิ่งนั้น ประโยคที่ว่า «صراط علی حق نمسکه» นักค้นคว้าบางคนกล่าวว่า ไม่มีที่มาจากแหล่งรายงานฮะดีซ ...
  • มีความแตกต่างกันบ้างไหมระหว่างทัศนะของชีอะฮฺ กับทัศนะของซุนนียฺในปัญหาเกี่ยวกับท่านอิมามมะฮฺดียฺ (อ.)
    9316 เทววิทยาดั้งเดิม 2554/11/21
    แน่นอนความเชื่อเรื่องอิมามมะฮฺดียฺ (อ.) เป็นส่วนสำคัญของหลักศรัทธาอิสลามบนพื้นฐานคำบอกกล่าวของท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ
  • หญิงสามารถเรียกร้องค่าจ้าง ในการให้น้ำนมแก่ทารกของตน จากสามีของนางได้หรือไม่?
    6019 สิทธิและกฎหมาย 2555/05/20
    การพิจารณาประเด็นต่อไปนี้ถือว่าจำเป็นกล่าวคือ บทบัญญัติทางศาสนา กับรากแห่งจริยธรรมในอิสลามคือความสมบูรณ์ของกันและกัน ทั้งสองจะไม่แยกออกจากกันเด็ดขาด[1] ด้วยเหตุนี้, แม้ว่าบทบัญญัติในบางกรณีจะกล่าวถึง สิทธิ จากประมวลสิทธิทั้งหลาย ซึ่งเป็นสิ่งตายตัวสำหรับบางคน และผู้ปฏิบัติสามารถใช้ประโยชน์จาก กฎเกณฑ์ของฟิกฮฺได้, แต่โดยหลักการของศาสนา ได้กล่าวถึงสิทธิอีกประการหนึ่งในฐานะของ หลักจริยธรรม ดังนั้น การนำเอาสิทธิทั้งสองประการมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน จะทำให้มีชีวิตมีความสุขราบรื่น เกี่ยวกับปัญหาที่ได้กล่าวข้างต้นนั้น, ต้องกล่าวว่าสิ่งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของวัฒนธรรม และการยึดมั่นต่อบทบัญญัติชัรอียฺ นอกจากนั้นยังขึ้นอยู่กับมาตรฐานความรักและความสัมพันธ์ ระหว่างชายกับหญิง ถ้าหากความสัมพันธ์ของทั้งสองวางอยู่บนคำสอนของศาสนา ความรัก และไมตรีที่มีต่อกัน ประกอบสามีพอมีกำลังทรัพย์, ซึ่งนอกจากค่าเลี้ยงดูและสิ่งจำเป็นทั่วไปแล้ว, เขายังสามารถแบ่งปันและจ่ายเป็นรางวัลค่าน้ำนม ที่ภรรยาได้ให้แก่ลูกของเธอ, แน่นอน ในแง่ของจริยธรรม ถ้าหากสามีไม่มีความสามารถด้านการเงิน, ดีกว่าภรรยาไม่สมควรเรียกรางวัลตอบแทนใดๆ และจงพิจารณาประเด็นเหล่านี้เป็นพิเศษว่า ชีวิตคู่จะมีความสุขราบรื่นก็เมื่อ ทั้งสามีและภรรยาได้ปฏิบัติหน้าที่ทางบทบัญญัติ และหลักจริยธรรมไปพร้อมกัน แต่ถ้าภรรยายืนยันเสียงแข็งว่า ...
  • ในเมื่อไม่สามารถมองเห็นพระองค์ได้ แล้วคำว่า لَّمَحْجُوبُونَ หมายถึงอะไร?
    7169 การตีความ (ตัฟซีร) 2555/02/08
    คำว่า “ฮิญาบ” (สิ่งปิดกั้น) มิได้สื่อถึงความหมายเชิงรูปธรรมเพียงอย่างเดียวทั้งนี้ก็เพราะเหตุผลทางปัญญาและกุรอาน, ฮะดีษพิสูจน์แล้วว่าอัลลอฮ์มิไช่วัตถุธาตุ[1]ฉะนั้นฮิญาบในที่นี้จึงมีความหมายเชิงนามธรรมมิไช่ความหมายเชิงรูปธรรมดังที่ปรากฏในโองการต่างๆอาทิเช่นوَ إِذَا قَرَأْتَ الْقُرْءَانَ جَعَلْنَا بَیْنَکَ وَ بَینْ‏َ الَّذِینَ لَا یُؤْمِنُونَ بِالاَخِرَةِ حِجَابًا مَّسْتُورًا  (ยามที่เจ้าอัญเชิญกุรอานเราได้บันดาลให้มีปราการล่องหนกั้นกลางระหว่างเจ้ากับผู้ที่ไม่ศรัทธาต่อปรโลก)
  • สามารถครอบครองที่ดินบริจาคได้หรือไม่? สามารถขายที่ดินบริจาคได้หรือไม่?
    5571 สิทธิและกฎหมาย 2554/11/21
    โปรดพิจารณาคำวินิจฉัยของมัรญิอฺตักลีดเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวท่านอายะตุลลอฮฺอัลอุซมาคอเมเนอี (ขออัลลอฮฺทรงปกป้องท่าน
  • โปรดบอกวิธีการทำลายพระนามของอัลลอฮฺที่ปรากฏอยู่ตามจดหมายต่างๆ หรือตามกระดาษอื่นๆ
    5811 สิทธิและกฎหมาย 2554/11/21
    เป็นความจำเป็นและวาญิบต้องให้เกียรติและแสดงความเคารพต่อพระนามของอัลลอฮฺการไม่ให้เกียรติหรือไม่แสดงความเคารพหรือดูถูกพระนามเหล่านั้นถือว่าฮะรอมดังนั้น
  • ในเมื่อการกดขี่เป็นที่แพร่หลายไปทั่วโลกแล้ว เหตุใดอิมามมะฮ์ดี (อ.) จึงยังไม่ปรากฏกาย
    6293 เทววิทยาดั้งเดิม 2554/11/21
    เมื่อคำนึงถึงประเด็นต่อไปนี้จะทำให้เราค้นหาคำตอบได้ง่ายยิ่งขึ้น1.     เราจะเห็นประโยคที่ว่าیملأ الارض قسطا و عدلا کما ملئت ظلما و جورا" ในหลายๆฮะดิษ[1] (ท่านจะเติมเต็มโลกทั้งผองด้วยความยุติธรรมแม้ในอดีตจะเคยคละคลุ้งไปด้วยความอยุติธรรม) สิ่งที่เราจะเข้าใจได้จากฮะดีษดังกล่าวก็คือ
  • การสัมผัสสิ่งที่เป็นนะญิสจะทำให้เราเป็นนะญิสด้วยหรือไม่? หากต้องการทำความสะอาดเราจะต้องอาบน้ำยกฮะดัษใหญ่หรือไม่?
    7362 สิทธิและกฎหมาย 2554/08/25
    หากสิ่งหนึ่งที่สะอาดสัมผัสกับสิ่งที่เปื้อนนะญิสโดยหนึ่งในสองหรือทั้งสองสิ่งนั้นมีความชื้นในลักษณะที่ถ่ายทอดถึงกันได้สิ่งสะอาดดังกล่าวก็จะเปื้อนนะญิสด้วย[1]สำหรับการทำความสะอาดสิ่งนั้นหลังจากที่ได้กำจัดธาตุนะญิสออกแล้วหากสิ่งที่เป็นนะญิสที่ไม่ใช่ปัสสาวะการล้างด้วยน้ำปริมาตรกุรน้ำปริมาตรก่อลี้ลหรือน้ำไหลผ่านถือว่าเพียงพอแล้ว       อิฮติยาตวาญิบให้บิดหรือสะบัดพรมเสื้อผ้าฯลฯเพื่อให้น้ำที่คงเหลืออยู่ในนั้นใหลออกมาหากต้องการทำความสะอาดสิ่งที่เป็นนะญิสโดยปัสสาวะจะต้องล้างด้วยน้ำก่อลี้ลโดยให้ราดน้ำหนึ่งครั้งโดยให้น้ำไหลผ่านหากไม่หลงเหลือปัสสาวะแล้วให้ราดน้ำอีกหนึ่งครั้งก็จะสะอาดแต่ในกรณีพรมหรือเสื้อผ้าและสิ่งทอประเภทอื่นๆทุกครั้งที่ราดน้ำจะต้องบีบหรือบิดจนน้ำไหลออกมา[2]ไม่ว่ากรณีใดข้างต้นก็ไม่จำเป็นจะต้องทำอาบน้ำยกฮะดัษนอกจากผู้ที่ได้สัมผัสศพก่อนอาบน้ำมัยยิตและหลังจากที่ศพเย็นลงแล้วในกรณีนี้นอกจากเขาจะต้องล้างส่วนๆนั้นของร่างกายที่สัมผัสกับศพแล้วเขาจะต้องทำกุซุลมัสส์มัยยิต(สัมผัสศพ)ด้วยเช่นกัน[3]หากสิ่งที่สะอาดสัมผัสกับสิ่งที่เปื้อนนะญิสโดยที่สองสิ่งดังกล่าวแห้งหรือมีความชื้นต่ำเสียจนไม่ถ่ายทอดถึงกันสิ่งที่สะอาดก็จะไม่เปื้อนนะญิส[4]
  • ทำไมจึงเกิดการทุจริตในรัฐบาลอิสลาม ?
    9795 จริยธรรมทฤษฎี 2554/03/08
    ปัจจัยการทุจริตและการแพร่ระบาดในสังคมอิสลาม -- จากมุมมองของพระคัมภีร์อัลกุรอาน – อาจกล่าวสรุปได้ในประโยคหนึ่งว่า : เนื่องจากไม่มีความเชื่อในพระเจ้าและการไม่ปฏิเสธมวลผู้ละเมิดทั้งหลาย (หมายถึงทุกสิ่งที่ไม่ใช่พระเจ้าและไม่สีสันของพระเจ้า) ในทางตรงกันข้ามความเชื่อมั่นในอัลลอฮฺ (ซบ.) และการปฏิเสธบรรดาผู้ละเมิดซึ่งเป็นไปในลักษณะของการควบคู่และร่วมกันอันก่อให้เกิดความก้าวหน้า
  • สายรายงานของฮะดีษที่ท่านอิมามอลี(อ.)กล่าวแก่ชาวอรับเกี่ยวกับชาวเปอร์เซียว่า“พวกท่าน(อรับ)รบกับพวกเขา(เปอร์เซีย)เพื่อให้ยอมรับการประทานกุรอาน แต่ก่อนโลกนี้จะพินาศ พวกเขาจะรบกับพวกท่านเพื่อการตีความกุรอาน”เชื่อถือได้เพียงใด?
    7479 ดิรอยะตุลฮะดีซ 2554/09/11
    ในตำราฮะดีษมีฮะดีษชุดหนึ่งที่มีนัยยะถึงการที่ท่านอิมามอลี(อ.)กล่าวกับชาวอรับเกี่ยวกับชาวเปอร์เซียว่า “พวกท่าน(อรับ)รบกับพวกเขา(เปอร์เซีย)เนื่องด้วยการประทานกุรอานแต่ก่อนโลกนี้จะพินาศพวกเขาก็จะรบกับพวกท่านเนื่องด้วยการตีความกุรอาน”สายรายงานของฮะดีษบทนี้เชื่อถือได้ ...

เนื้อหาที่มีผู้อ่านมากที่สุด

  • อะไรคือหน้าที่ๆภรรยาพึงปฏิบัติต่อสามีบ้าง?
    59624 สิทธิและกฎหมาย 2554/07/07
    ความมั่นคงของชีวิตคู่ขึ้นอยู่กับความรักความผูกพัน ความเข้าใจ การให้เกียรติและเคารพสิทธิของกันและกัน และเพื่อที่สถาบันครอบครัวจะยังคงมั่นคงเป็นปึกแผ่น อิสลามจึงได้ระบุถึงสิทธิของทั้งภรรยาและสามี ขณะเดียวกันก็ได้กำหนดหน้าที่สำหรับทั้งสองฝ่ายไว้ด้วย เนื่องจากเมื่ออัลลอฮ์ประทานสิทธิ ก็มักจะกำหนดหน้าที่กำกับไว้ด้วยเสมอ ข้อเขียนนี้จะนำเสนอหน้าที่ทางศาสนาบางส่วนที่ภรรยาพึงปฏิบัติต่อสามีดังต่อไปนี้:1. ...
  • ดุอาใดบ้างที่ทำให้ได้รับพรเร็วที่สุด?
    57020 จริยธรรมปฏิบัติ 2554/07/03
    มีดุอาที่รายงานจากอิมาม(อ.)หลายบทที่กล่าวขานกันว่าเห็นผลตอบรับอย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาดุอาทั้งหมด ณ ที่นี้ได้ จึงขอกล่าวเพียงชื่อดุอาที่มีความสำคัญเป็นพิเศษดังต่อไปนี้1. ดุอาตะวัซซุ้ล2. ดุอาฟะร็อจ
  • กรุณานำเสนอบทดุอาเพื่อให้ได้พบคู่ครองที่เหมาะสมและเปี่ยมด้วยตักวา
    41831 จริยธรรมปฏิบัติ 2554/06/12
    ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีปัจจัยและเงื่อนไขจำเพาะตามที่พระเจ้าทรงกำหนดหากเราประสงค์สิ่งใดย่อมต้องเริ่มจากการตระเตรียมปัจจัยและเงื่อนไขเสียก่อนปัจจัยของการแต่งงานคือการเสาะหาและศึกษาอย่างละเอียดทว่าเพื่อความสัมฤทธิ์ผลในการดังกล่าวจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮ์เพื่อทรงชี้นำการตัดสินใจและความพยายามของเราให้บรรลุดังใจหมาย.การอ่านบทดุอาต่างๆที่รายงานจากบรรดาอิมาม(อ)ต้องควบคู่กับความพยายามศึกษาและเสาะหาคู่ครองอย่างถี่ถ้วน. หนึ่งในดุอาที่เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเฉพาะก็คือรายงานที่ตกทอดมาจากท่านอลี(อ)ดังต่อไปนี้: “ผู้ใดประสงค์จะมีคู่ครอง
  • ด้วยเหตุผลอันใดที่ต้องกล่าว อะอูซุบิลลาฮิ มินัชชัยฏอน นิรเราะญีม ก่อน บิซมิลลาฮิรเราะฮฺมานนิรเราะฮีม?
    38637 วิทยาการกุรอาน 2555/08/22
    หนึ่งในมารยาทของการอ่านอัลกุรอาน ซึ่งมีกล่าวไว้ในอัลกุรอาน และรายงานฮะดีซคือ การกล่าว อะอูซุบิลลาฮิ มินัชชัยฏอน นิรเราะญีม ก่อนที่จะเริ่มอ่านอัลกุรอาน หรือแม้แต่ให้กล่าวก่อนที่จะกล่าว บิซมิลลาฮิรเราะฮฺมานนิรเราะฮีม เสียด้วยซ้ำไป ด้วยเหตุผลที่ว่า บิซมิลลาฮิรเราะฮฺมานนิรเราะฮีม นั้นเป็นส่วนหนึ่งของอัลกุรอาน อย่างไรก็ตามการขอความคุ้มครองจากอัลลอฮฺ มิใช่แค่เป็นเพียงคำพูดเท่านั้น ทว่าสิ่งนี้จะต้องฝังลึกอยู่ภายในจิตวิญญาณของเรา ซึ่งต้องสำนึกสิ่งนี้อยู่เสมอตลอดการอ่านอัลกุรอาน ...
  • ครูบาอาจารย์และลูกศิษย์(นักเรียนนักศึกษา)มีหน้าที่ต่อกันอย่างไร?
    38534 จริยธรรมปฏิบัติ 2554/11/14
    ผู้สอนและผู้เรียนมีหน้าที่ต่อกันหลายประการด้วยกันซึ่งสามารถจำแนกออกเป็นสองส่วนก. หน้าที่ที่ผู้สอนมีต่อผู้เรียนอันประกอบด้วยหน้าที่ทางจริยธรรมการอบรมและวิชาการ ข. หน้าที่ที่ผู้เรียนมีต่อผู้สอนอาทิเช่นการให้เกียรติครูบาอาจารย์ยกย่องวิทยฐานะของท่านนอบน้อมถ่อมตน ...ฯลฯ ...
  • ก่อนการสร้างนบีอาดัม(อ) เคยมีการแต่งตั้งญินให้เป็นศาสนทูตสำหรับฝ่ายญินหรือไม่?
    33625 เทววิทยาดั้งเดิม 2554/06/12
    อัลกุรอานยืนยันการมีอยู่ของเหล่าญินรวมทั้งได้อธิบายคุณลักษณะบางประการไว้ถึงแม้ว่าข้อมูลของเราเกี่ยวกับโลกของญินจะค่อนข้างจำกัดแต่เราสามารถพิสูจน์ว่าเหล่าญินเคยมีศาสนทูตที่เป็นญินก่อนการสร้างนบีอาดัมโดยอาศัยเหตุผลต่อไปนี้:1. เหล่าญินล้วนมีหน้าที่ทางศาสนาเฉกเช่นมนุษย์เราแน่นอนว่าหน้าที่ทางศาสนาย่อมเป็นผลต่อเนื่องจากการสั่งสอนศาสนาด้วยเหตุนี้จึงมั่นใจได้ว่าอัลลอฮ์ทรงเคยแต่งตั้งศาสนทูตสำหรับกลุ่มชนญินเพื่อการนี้2. เหล่าญินล้วนต้องเข้าสู่กระบวนการพิพากษาในวันกิยามะฮ์เฉกเช่นมนุษย์เราซึ่งโดยทั่วไปแล้วก่อนกระบวนการพิพากษาทุกกรณีจะต้องมีการชี้แจงข้อกฏหมายจนหมดข้อสงสัยเสียก่อนและการชี้แจงให้หมดข้อสงสัยคือหน้าที่ของบรรดาศาสนทูตนั่นเอง
  • เนื่องจากอัลลอฮฺทรงรอบรู้เหนือโลกและจักรวาล ฉะนั้น วัตถุประสงค์การทดสอบของอัลลอฮฺคืออะไร?
    27645 เทววิทยาดั้งเดิม 2554/03/08
    ดังที่ปรากฏในคำถามว่าการทดสอบของอัลลอฮฺไม่ได้เพื่อการค้นหาสิ่งที่ยังไม่รู้เนื่องจากอัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงปรีชาญาณเหนือทุกสรรพสิ่งแต่อัลกุรอานหลายโองการและรายงานที่ตกมาถึงมือเรากล่าวว่าการทดสอบเป็นแบบฉบับหนึ่งและเป็นกฎเกณฑ์ของพระเจ้าที่วางอยู่บนแบบฉบับอื่นๆอันได้แก่การอบบรมสั่งสอนการชี้นำโดยรวมของพระเจ้าอัลลอฮฺ
  • ปีศาจ (ซาตาน) มาจากหมู่มะลาอิกะฮฺหรือญิน ?
    27437 การตีความ (ตัฟซีร) 2553/12/22
    เกี่ยวกับคำถามที่ว่าชัยฎอนเป็นมะลาอิกะฮฺหรือญินมีมุมมองและทัศนะแตกต่างกันแหล่งที่มาของความขัดแย้งนี้เกิดจากเรื่องราวการสร้างนบีอาดัม (อ.) เนื่องจากเป็นคำสั่งของพระเจ้ามวลมะลาอิกะฮ์ทั้งหลายจึงได้กราบสุญูดอาดัมแต่ซาตานไม่ได้ก้มกราบบางคนกล่าวว่าชัยฎอน (อิบลิส) เป็นมะลาอิกะฮฺ, โดยอ้างเหตุผลว่าเนื่องจากโองการอัลกุรอานกล่าวละเว้น, อิบลิสไว้ในหมู่ของมะลาอิกะฮฺ (มะลาอิกะฮ์ทั้งหมดลดลงกราบยกเว้นอิบลิส) ดังนั้นอิบลิส
  • อายะฮ์ إِذا مَا اتَّقَوْا وَ آمَنُوا وَ عَمِلُوا الصَّالِحاتِ ثُمَّ اتَّقَوْا وَ آمَنُوا ثُمَّ اتَّقَوْا وَ أَحْسَنُوا وَ اللَّهُ یُحِبُّ الْمُحْسِنین การกล่าวซ้ำดังกล่าวมีจุดประสงค์ใด?
    27284 การตีความ (ตัฟซีร) 2555/02/07
    ในแวดวงวิชาการมีความเห็นแตกต่างกันในเรื่องการย้ำคำว่าตักวาในโองการข้างต้นบ้างเชื่อว่ามีจุดประสงค์เพื่อให้เล็งเห็นความสำคัญของประเด็นเกี่ยวกับตักวาอีหม่านและอะมั้ลที่ศอลิห์
  • เมื่ออัลลอฮฺ มิทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งหลายจากสิ่งใดทั้งหมด, หมายความว่าอำนาจของพระองค์ได้ถ่ายโอนไปสู่วัตถุปัจจัยกระนั้นหรือ?
    25340 รหัสยทฤษฎี 2555/05/17
    ใช่แล้ว การสร้างจากสิ่งไม่มีตัวตนมีความหมายตามกล่าวมา, เนื่องจากคำว่า ไม่มีตัวตน คือไม่มีอยู่ก่อนจนกระทั่งอัลลอฮฺ ทรงสร้างสิ่งนั้นขึ้นมา รายงานฮะดีซก็กล่าวถึงประเด็นนี้ไว้เช่นกันว่า อำนาจสัมบูรณ์ของพระเจ้า มีความเป็นหนึ่งเดียวกันกับคุณลักษณะอื่นของพระองค์ ซึ่งเกินเลยอำนาจความรอบรู้ของมนุษย์ เนื่องจากสรรพสิ่งถูกสร้างทั้งหลายได้ถูกสร้างขึ้นมา จากสิ่งไม่มี ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วสรรพสิ่งถูกสร้างทั้งหลาย เปรียบเสมือนภาพที่ถ่ายโอนอำนาจสัมบูรณ์ของพระเจ้า เราเรียกนิยามนี้ว่า “การสะท้อนภาพ”[1]ซึ่งในรายงานฮะดีซได้ใช้คำว่า “การเกิดขึ้นของคุณลักษณะ” : อัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงเป็นพระผู้อภิบาลของเราที่มีความเป็นนิรันดร์ ความรอบรู้คือ อาตมันของพระองค์ ขณะที่ไม่มีความรอบรู้อันใด การได้ยินคืออาตมันของพระองค์ ขณะที่ไม่มีการได้ยินใดๆ การมองเห็นคือ อาตมันของพระองค์ ขณะที่ไม่มีการมองเห็นอันใด อำนาจคืออาตมันของพระองค์ ขณะที่ไม่มีอำนาจอันใด และเนื่องจากพระองค์คือ ผู้ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งหลาย ทำให้สิ่งเหล่านั้นมีและเป็นไป ความรู้ของพระองค์ได้ปรากฏบนสิ่งถูกรู้จักทั้งหลาย การได้ยิน ได้ปรากฏบนสิ่งที่ได้ยินทั้งหลาย การมองเห็นได้ปรากฏบนสิ่งมองเห็น และอำนาจของพระองค์ ...